หากจำลิงค์หน้านี้ไม่ได้

ก็จำแค่ Keyword ก็พอครับ
โดยเข้าไปค้นหาโดย Google
แล้วค้นหาคำว่า download driver fuji xerox
ผลการค้นหามีหลายอัน ตัวอย่างคืออันแรกครับ (Support & Driver - Fuji Xerox)

เมื่อคลิกแล้วก็จะไปหน้าค้นหารุ่นเครื่องครับ

ดูประเทศที่มุมขวาบน

แล้วเลือกประเทศไทย ตามลูกศรแดง

 ตรงลูกศรแดง ใส่ตัวเลขรุ่น เช่น 2200 จะเห็นว่า มีหลาย Series ที่เป็นรุ่น C2200

ให้เลือกรุ่นที่เราต้องการ เช่น DocuPrint C2200 ตามรุ่นเครื่องที่เราใช้งาน

ปกติ ถ้าเลือกรุ่นปุ๊บ ระบบจะไปหน้าดาวน์โหลด (รูปถัดไป)
แต่ถ้าเรากด "ค้นหา" ระบบก็จะพามาหน้าเลือกรุ่น มีรูปตัวอย่างให้ดูด้วย จะเลือกตรงนี้ก็ย่อมได้ครับ

เลือกระบบปฏิบัติการที่ท่านใช้ ตามตัวอย่างผมใช้ Windows 7 64bit
เลือกภาษา พอเราเลือกประเทศไทย ภาษาเลยเป็นไทย แต่ไดร์เวอร์ภาษาไทยไม่มี เราจึงต้องเลือก English ครับ
เลือกแล้วกด "อัพเดท" ครับ
ตามตัวอย่าง PCL Windows WHQL Print Driver คือ Driver PCL6 ครับ
เป็นไดร์เวอร์แนะนำครับ ให้คลิกที่ "ดาวน์โหลด" ครับ
เมื่อได้ไฟล์มา ก็แตกไฟล์ไว้ที่ Desktop เพื่อทำการติดตั้งต่อไปครับ

มีไดร์เวอร์ที่รองรับระบบปฏิบัติการสำหรับ Mac ด้วยครับ
เลือกแล้วกด "อัพเดท" ครับ
แล้วค่อยคลิกที่ ดาวน์โหลด ครับ

1. แตกไฟล์ ในตัวอย่างแตกไฟล์ไว้ที่ Desktop ดับเบิ้ลคลิก Folder DPC1110_PCL_EN

2. ดับเบิ้ลคลิก Folder English

3. ดับเบิ้ลคลิก Folder Win2K_s2008

4. จะเห็นไฟล์ระบบที่จำเป็น สังเกตุจะไม่มีไฟล์ติดตั้ง (Setup.exe) เราต้องทำการติดตั้งเอง โดยอ่านรายละเอียดภาษาอังกฤษได้ที่ไฟล์ชื่อ Readme_2k_s2008(dpc1110).txt หรือทำตามเราก็ได้ครับ

5. ใครใช้รุ่น C1110 ที่โหลดไฟล์ที่สองมาก็แตกไฟล์ไว้ด้วยกันเลยครับ (ใครใช้ C1110B ข้ามไปข้อ 7 ครับ) แตกไฟล์แล้วก็ ดับเบิ้ลคลิก Folder DPC1110_PS_2K_Vista

6. จะเห็นไฟล์ระบบที่จำเป็น สังเกตุจะไม่มีไฟล์ติดตั้ง (Setup.exe) เราต้องทำการติดตั้งเอง โดยอ่านรายละเอียดภาษาอังกฤษได้ที่ไฟล์ชื่อ Fxreadme.txt

7. มาเริ่มติดตั้งได้เลยครับ ไปที่หน้า Printers and Faxes ใน Control Panel ดับเบิ้ลคลิกที่ Add Printer

8. คลิก Next

9. เลือก Local Printer เอาติ๊กถูกที่ Automatically... ออก แล้วคลิก Next

10. เลือก Port LPT1: ไปก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนทีหลัง แล้วคลิก Next

11. คลิก Have Disk...

12. คลิก Browse...

13. ไป Folder ที่เราแตกไฟล์ไว้ ในตัวอย่างคือ Desktop 13. ไป Folder ที่เราแตกไฟล์ไว้ ในตัวอย่างคือ Desktop

14. ดับเบิ้ลคลิกเข้าไป

15. ดับเบิ้ลคลิกเข้าไป

16. ดับเบิ้ลคลิกเข้าไป

17. คลิก OK

18. เลือกรุ่นของตัวเองให้ตรง ในตัวอย่างใช้ C1110 เลือกอันล่าง (ใครใช้ C1110B เลือกอันบน)

19. จะให้เครื่องนี้เป็นเครื่องแรกที่สั่งปริ้นหรือปล่าว? Yes หรือ No แล้วแต่ชอบ แล้วคลิก Next

20. จะเปิดแชร์ในระบบเครือข่ายหรือปล่าว แล้วแต่ชอบ ใช้คนเดียวก็ไม่ต้อง คลิก Next

21. จะลองทดสอบการปริ้นเดี๋ยวนี้เลยไหม No ครับ ยังไม่ได้เลือก Port เลย คลิก Next

22. หน้าสรุปครับ ตรวจสอบดู ถ้าถูกต้องก็คลิก Finish

23. เครื่องจะ Copy ไฟล์ไดร์เวอร์ที่จำเป็นต้องใช้ ไปไว้ใน System ครับ

24. ได้ไดร์เวอร์ปริ้นเตอร์เพิ่มขึ้นมาอีกตัวนึงแล้วครับ

25. คลิกขวาที่ไดร์เวอร์ที่เพิ่งติดตั้งลงไป แล้วคลิกที่ Properties

26. คลิกที่แท็บ Ports ครับ

สำหรับเครื่องที่ต่อผ่านสาย USB

ใครต่อปริ้นเตอร์แบบ USB ก็ให้เลือก Port USB ครับ ตัวเลขที่ตามหลังคือเราได้เสียบสาย USB ไปกี่ตัวครับ

(แต่ละเครื่องมากน้อยไม่เท่ากัน)

ในตัวอย่าง เครื่องแรกเป็น Epson ก็ใช้ Port USB001

ส่วน C1110 เสียบเป็นเครื่องที่สอง ก็ใช้ USB002 ครับ

จำนวนมีได้เป็นร้อย เลือกเอาล่าสุดก็แล้วกันครับ

--------------------------------------------------------

27. เลือกติ๊กถูกด้านหน้าแล้วคลิก Apply ครับ

28. จะเห็นว่าชื่อปริ้นเตอร์ ไปอยู่ที่ตำแหน่ง USB002 ครับ เสร็จแล้วครับ กด OK แล้วไปสั่งปริ้นได้เลย

สำหรับเครื่องที่ต่อผ่านสาย LAN

ใครต่อสาย LAN ก็ต้องกำหนด IP Address ของเครื่องพิมพ์ก่อนนะครับ ทำตามขั้นตอนดังนี้

เปิดเครื่องพิมพ์ จนเครื่องพร้อมใช้งาน

- กดปุ่ม Menu
- กดปุ่ม ลูกศรขึ้นหรือลงไปที่ Admin Menu
- กดปุ่ม Eject/Set
- กดปุ่ม ลูกศรขึ้นหรือลงไปที่ Wire Network
- กดปุ่ม Eject/Set
- กดปุ่ม ลูกศรขึ้นหรือลงไปที่ TCP/IP
- กดปุ่ม Eject/Set หน้าจอจะเป็น IPV4
- กดปุ่ม Eject/Set หน้าจอจะเป็น Get IP Address
- กดปุ่ม Eject/Set หน้าจอจะเป็น DHCP/Autonet หรือจะเป็นอะไรก็ช่าง
- กดปุ่ม ลูกศรขึ้นหรือลงไปที่ Panel
- กดปุ่ม Eject/Set หน้าจอจะเป็น Reboot to apply setting รอสักครู่ จะเห็น * ต่อท้าย Panel แสดงว่าเครื่องได้บันทึกค่าไว้แล้ว
- กดปุ่ม ลูกศรซ้ายไปที่ Get IP Address
- กดปุ่ม ลูกศรขึ้นหรือลงไปที่ IP Address
- กดปุ่ม Eject/Set หน้าจอจะให้ใส่ค่า IP Address, ลูกศรขึ้น-ลง ใช้เปลี่ยนค่า, ลูกศรซ้าย-ขวา ใช้เปลี่ยนตำแหน่ง กดลูกศรค้างไว้ จะเปลี่ยนค่าอย่างรวดเร็ว
- เมื่อได้ค่าที่ต้องการแล้ว ให้กด Eject/Set หน้าจอจะแสดง Reboot to apply setting รอสักครู่ จะเห็น เครื่องหมาย * ที่ต่อท้ายตัวเลข IP Address แสดงว่าบันทึกค่า IP Address ไว้แล้ว ตามตัวอย่างจะใช้ค่า 192.168.1.77
- กดปุ่ม ลูกศรซ้ายไปที่ IP Address
- กดปุ่ม ลูกศรขึ้นหรือลงไปที่ Subnet Mask
- เมื่อได้ค่าที่ต้องการแล้ว ให้กด Eject/Set หน้าจอจะแสดง Reboot to apply setting รอสักครู่ จะเห็น เครื่องหมาย * ที่ต่อท้ายตัวเลข Subnet Mask แสดงว่าบันทึกค่า Subnet Mask ไว้แล้ว ตามตัวอย่างจะใช้ค่า 255.255.255.0
- แค่นี้เพียงพอแล้ว ใครต้องการจะใส่ Gateway Address ก็สามารถทำได้โดยใช้วิธีเดียวกัน (ส่วนใหญ่ก็จะใช้ค่าของ Router คือ 192.168.1.1) แล้วก็ปิดเครื่อง รอสัก 5 วินาที (กันไว้) แล้วเปิดเครื่องใหม่ เป็นการ Reboot Printer นั่นเอง
- เมื่อเครื่องพร้อมทำงาน เราจะตรวจสอบดูว่า ที่เราปรับค่าไปนั้น ถูกต้องหรือไม่ ให้ Print configure ของเครื่องออกมาตรวจสอบดู โดยทำตามขั้นตอนดังนี้
- กดปุ่ม Menu หน้าจอจะแสดง Report/List
- กดปุ่ม Eject/Set หน้าจอจะแสดง Printer Settings
- กดปุ่ม Eject/Set เครื่องจะพิมพ์ Report ออกมา 1 แผ่น ในนั้นจะแสดงรายละเอียดของ IP Address ตรวจสอบดูให้ถูกต้อง ถ้าต้องการแก้ไขก็ใช้วิธีการเดิม ตามหัวข้อที่ต้องการแก้ไข

เมื่อเราทราบ IP Address ของเครื่องพิมพ์แล้ว เราก็มาสร้าง Port เพื่อให้เครื่องพิมพ์สามารถรับงานพิมพ์จากระบบเครือข่ายได้ ตามขั้นตอนดังนี้
------------------------------------------------------
29. ที่แท็บ Ports เลือก Add Port...

30. เลือก Standard TCP/IP Port แล้วคลิก New Port...

31. ข้อความแนะนำ เปิดเครื่อง, ระบบ Network ทำงานสมบูรณ์แล้วหรือยัง อ่านแล้วคลิก Next

32. ช่องบนใส่ค่า IP Address ของเครื่องพิมพ์, ช่องล่างใส่ชื่อของ Port เช่น My Port ถ้าไม่ใส่อะไร ระบบจะใส่ให้เอง อัตโนมัติ เสร็จแล้วคลิก Next

33. รอสักครู่ ระบบจะตรวจสอบค่า